ทำไมถึงควรเปิดช่องทางขายสินค้าหรือบริการผ่านทางออนไลน์
- ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าได้ทุกเวลา โดยไม่ต้องมาถึงหน้าร้าน ทำให้ธุรกิจของคุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้น
- การซื้อของออนไลน์ มีความสะดวกมากกว่าสำหรับลูกค้า
- การขายของออนไลน์ สามารถช่วยลดต้นทุนได้ เช่น การไม่ต้องจ่ายเงินสำหรับการเช่าพื้นที่ตั้งร้าน
- ลูกค้าสามารถดูสินค้าผ่านทางออนไลน์ก่อนเดินทางมาซื้อด้วยตนเอง ซึ่งเป็นการประหยัดเวลา
การสร้างร้านค้าออนไลน์
คุณสามารถใช้อีคอมเมิร์ซ แพลตฟอร์มแบบมาตรฐานที่หาได้จากอินเตอร์เน็ตทั่วไป โดยควรเลือกแพลตฟอร์มที่คุณสามารถตั้งค่าการบริหารจัดการข้อมูลทั้งในส่วนหน้าร้านที่แสดงบนแพลตฟอร์ม (Front-end) และการบริหารจัดการหลังบ้าน (Back-end) ได้ด้วยตนเองและเข้ากันได้กับเว็ปไซต์ที่คุณมีอยู่ และต้องพิจารณาคุณลักษณะอื่นๆ ของแพลตฟอร์มนั้นๆ เช่น ระบบการคืนเงินการคืนสินค้า การแจ้งลูกค้าเมื่อสินค้าหมด และฟังก์ชันในการอัปเดตเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็ว ที่สำคัญคือการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า
หลังจากเลือกแพลตฟอร์มได้แล้ว คุณต้องสร้าง “แนวคิดหลัก” หรือที่เรียกว่า Theme ในการสร้างภาพลักษณ์ให้กับร้านของคุณ
จากนั้นจึงเพิ่มการใส่รูปภาพและคำอธิบายสินค้า ภาพสินค้าต้องมีความคมชัดและโดดเด่น สะท้อนสินค้าจากหลายๆ มุม เป็นต้น
คำอธิบายสินค้าต้องกระชับ เข้าใจง่าย และต้องมีคุณสมบัติและประโยชน์ของสินค้าครบถ้วน หากเป็นผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้ ควรระบุขนาดหรือน้ำหนักด้วย และอย่าลืมใส่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เช่น เวลาในการจัดส่ง หรือวิธีใช้สินค้า เป็นต้น
การจัดการหน้าร้านออนไลน์ ก็เหมือนกับกับการจัดสินค้าหน้าร้านที่ต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกสะดวกในการหาของ เช่นการจัดหมวดหมู่สินค้าเป็นกลุ่มใหญ่ กลุ่มย่อย เช่น การจัดเสื้อผ้าเป็นหมวดหมู่ของผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก จากนั้นจัดเป็นหมวดหมู่ย่อย เช่น เสื้อ กางเกง และรองเท้า จะช่วยให้ลูกค้าค้นหาสิ่งที่ต้องการได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น
การขายสินค้าผ่าน Online Marketplace
หากการสร้างร้านค้าออนไลน์ด้วยตัวเอง เป็นสิ่งที่ยุ่งยากเกินไปสำหรับคุณ การขายสินค้าผ่าน Online Marketplace เป็นตัวเลือกหนึ่งที่ช่วยให้คุณสามารถเปิดร้านค้าออนไลน์ได้ง่ายและเร็วขึ้น
Online Marketplace มีหลายประเภทซึ่งมีความเหมาะสมกับแต่ธุรกิจแตกต่างกันไป
- e-Commerce : การขายสินค้าผ่านเว็ปไซต์ของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง ซึ่งขายสินค้าหลากหลายประเภทหลากหลายยี่ห้อ เช่น Lazada, Shopee
- Social Commerce : การขายสินค้าผ่านช่องทาง Social media เช่น Facebook, Instagram, Twitter, LINE หรือTikTok เป็นต้น
- Super App : การขายสินค้าผ่าน application ซึ่งลูกค้าจะได้รับประสบการณ์แบบ one-stop-shop ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ หลายบริการโดยไม่ต้องออกจาก application เช่น AliPay, AirAsia Super App เป็นต้น
โดยคุณสามารถเลือกขายสินค้าบน Online Marketplace ได้ ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มจะมีช่องทางการจัดส่งและการชำระเงินที่แตกต่างกันไป