แม้ว่าการเติบโตของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซจะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ค้าในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ได้ทั่วโลก แต่ก็ยังเป็นการสร้างโอกาสให้อาชญากรพยายามทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมายด้วยเช่นกัน Visa มุ่งมั่นที่จะป้องกันไม่ให้มีการใช้แบรนด์การชำระเงินและระบบการชำระเงินเพื่อการทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย งานนี้ไม่ใช่งานที่ง่าย และ Visa เองก็คงจัดการดูแลไม่ได้เองเสมอไป หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากเจ้าของ IP และการบังคับใช้กฎหมาย แต่สิ่งสำคัญก็คือการคงไว้ซึ่งความเชื่อถือของผู้เข้าร่วมทั้งหมดในระบบการชำระเงิน ด้วยเหตุนี้ Visa จึงเก็บบันทึกประวัติการทำงานที่ยาวนานอย่างใกล้ชิดกับเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา และให้ความร่วมกับมือกับหน่วยงานทางด้านกฎหมาย เพื่อต่อสู้กับการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาบนอินเทอร์เน็ต หากคุณเป็นเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญานี้ กรุณาอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเรียนรู้วิธีการรายงานข้อมูลที่มีการทำธุรกรรมที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาต่อ Visa
ทรัพย์สินทางปัญญา
-
-
ขอบคุณที่แจ้งให้ Visa Inc. หรือบริษัทในเครือดำเนินการตรวจสอบสิทธิบัตร/การใช้งานสิทธิบัตรบางรายการที่คุณอ้างในสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ ก่อนที่ Visa จะตรวจสอบสิทธิบัตรหรือการใช้งานสิทธิบัตรดังกล่าวใด ๆ Visa จำเป็นต้องขอให้คุณยอมรับในข้อตกลงและเงื่อนไขในข้อตกลงนี้
ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้งาน
กรุณาอ่านเงื่อนไขเหล่านี้ให้ละเอียดก่อนดำเนินการต่อ
นโยบายนี้จะหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดหรือข้อพิพาทที่อาจเกิดขึ้น เมื่อผลิตภัณฑ์หรือกลยุทธ์ทางการตลาดของ Visa มีโอกาสที่จะดูคล้ายกับแนวคิดหรือสินทรัพย์ที่เป็นทรัพย์สินทางปัญญาที่ส่งเข้ามายัง Visa ถึงแม้เราจะร้องขอไม่ให้คุณส่งทรัพย์สินทางปัญญาของคุณมาให้เรา แต่คุณยังส่งเข้ามา เราจะใช้เงื่อนไขดังต่อไปนี้เพื่อกำกับควบคุมข้อมูลนำส่งของคุณ
เราแนะนำให้คุณขอรับคำแนะนำจากทนายความที่มีอำนาจก่อนจะยอมรับในข้อตกลงและเงื่อนไขเหล่านี้ เมื่อลงนามในหนังสือด้านล่างนี้ จะหมายความว่าคุณได้เข้าทำสัญญาที่มีผลผูกพันทางกฎหมายกับคุณ
การนำส่งทั้งหมดควรทำในภาษาอังกฤษ
[1] เมื่อมีข้อมูลนำส่งโอกาสเกี่ยวกับสิทธิบัตรมาถึง Visa, Inc. ("ข้อมูลนำส่ง") คุณและหน่วยงานในสังกัดของคุณ ("คุณ" "ของคุณ" "ตัวคุณ" หรือ "ผู้ส่ง") จะหมายความว่าคุณประสงค์ให้ Visa, Inc. และบริษัทในเครือ ("เรา" "พวกเรา" หรือ "ของเรา") ประเมินข้อมูลนำส่งสำหรับธุรกรรมสิทธิบัตรที่อาจเกิดขึ้นกับคุณ และคุณยอมรับในเงื่อนไขที่มี
[2] คุณรับรองว่าคุณมีสิทธิ์ในการออกใบอนุญาตในสาระสำคัญที่ครบถ้วนของสิทธิบัตรให้แก่ Visa สำหรับการปฏิบัติการ ผลิตภัณฑ์ และบริการทั้งหมดของ Visa ไม่ว่าจะเป็นเพราะคุณเป็นเจ้าของสิทธิบัตร หรือคุณได้รับอนุญาตสิทธิ์ขาดแต่เพียงผู้เดียวในสิทธิบัตรจากผู้อื่น และมีสิทธิ์ในการมอบอนุญาตช่วงดังกล่าว หากคุณได้ออกใบอนุญาตที่เป็นสิทธิ์ขาดในสิทธิบัตรให้ฝ่ายอื่นในด้านใดก็ตามที่อาจจะเป็นประโยชน์ต่อ Visa ฝ่ายดังกล่าวจะต้องยอมรับในเงื่อนไขในหนังสือข้อตกลงฉบับนี้ก่อนที่ Visa จะยินยอมตรวจสอบสิทธิบัตร
[3] คุณยินยอมว่าเราไม่จำเป็นต้องปฏิบัติต่อส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อมูลนำส่ง (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงแต่ การใช้งานสิทธิบัตรใด ๆ ที่ไม่ได้รับการเผยแพร่) เสมือนเป็นความลับหรืออยู่ภายใต้การคุ้มครองโดยลิขสิทธิ์
[4] ข้อมูลนำส่งและสิ่งที่เราได้รับทราบจากข้อมูลนำส่งนั้น จะไม่ก่อให้เกิดการแจ้งให้ทราบ หรือการรับทราบโดยเรา ถึงสิทธิบัตรหรือการเรียกร้องใด ๆ ถึงการละเมิดสิทธิบัตรเพื่อวัตถุประสงค์ใดก็ตาม รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงแต่ การเรียกร้องโดยคุณถึงการจงใจละเมิด การโน้มน้าวให้มีการละเมิด หรือการมีส่วนร่วมในการละเมิดใด ๆ หรือความเสียหายที่เพิ่มกมาขึ้นใด ๆ หรือการแจ้งให้ทราบใด ๆ ถึงการละเมิด ภายใต้กฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่มีของสหรัฐฯ หรือกฎหมายและระเบียบข้อบังคับนอกสหรัฐฯ ใด ๆ ที่คล้ายกัน คุณต้องไม่ใช้และสละซึ่งสิทธิ์ใด ๆ ในการใช้เนื้อหาวัสดุที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลนำส่ง และข้อพิจารณาหรือการวิเคราะห์ใด ๆ ที่เราจัดทำขึ้นจากเนื้อหาวัสดุที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลนำส่ง เพื่อใช้เป็นหลักฐานในทางตุลาการ การปกครอง หรือการดำเนินคดีอื่น ๆ เพื่อวัตถุประสงค์ใดก็ตาม รวมถึงการใช้เป็นหลักฐานของหรือเพื่อสนับสนุนการแสดงให้เห็นหรือการเปิดเผยถึงการแจ้งให้ทราบหรือการรับทราบดังกล่าวใด ๆ ภายใต้กฎหมายที่มี คุณหรือผู้ครอบครองสิทธิบัตรสืบทอดใด ๆ สามารถส่งการแจ้งให้ทราบเป็นลายลักษณ์อักษรถึงเราได้ทุกเมื่อ เพื่อขอบอกเลิกการเจรจาตกลงหรือการหารือใด ๆ ที่ได้เริ่มไว้สำหรับข้อมูลนำส่ง ("การบอกเลิก") เมื่อบอกเลิกแล้ว ข้อกำหนดในวรรคนี้จะยังคงมีผลบังคับใช้ เฉพาะในแง่ของข้อมูลนำส่งเท่านั้น
[5] คุณรับทราบว่า (1) ทั้งสองฝ่ายไม่ได้มีพันธะผูกพันในการทำธุรกรรมทางธุรกิจใด ๆ อันเป็นผลมาจากข้อมูลนำส่งหรือจากหนังสือนี้ (2) เราไม่มีพันธะผูกพันใด ๆ ในการตรวจสอบหรือพิจารณาข้อมูลนำส่ง และ (3) ทั้งสองฝ่ายไม่ได้ถือครองสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาใด ๆ ภายใต้หนังสือข้อตกลงนี้ หนังสือข้อตกลงนี้ไม่ได้ก่อให้เกิดความสัมพันธ์ฉันท์ตัวแทนหรือหุ้นส่วนใด ๆ ทั้งสองฝ่ายจะโอนมอบสิทธิหรือโอนย้ายเปลี่ยนมือหนังสือข้อตกลงนี้ไม่ได้ หากไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากอีกฝ่ายก่อน การแก้ไขหรือการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในข้อตกลง จะต้องทำเป็นหนังสือและลงนามโดยทั้งสองฝ่าย การไม่สามารถบังคับใช้ข้อกำหนดใด ๆ ในข้อตกลงนี้ได้ จะไม่ทำถือเป็นการสละซึ่งสิทธิ์ตามข้อกำหนดที่เหลือในข้อตกลง ข้อตกลงนี้อยู่ภายใต้การกำกับควบคุมของกฎหมายแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยไม่มีการอ้างอิงถึงหรือมีการใช้หลักการตัวเลือกแห่งกฎหมาย หนังสือข้อตกลงนี้คือความเข้าใจและข้อตกลงแบบเบ็ดเสร็จระหว่างคุณและเรา และจะใช้แทนที่ข้อตกลงที่ทำไว้ก่อนหน้าหรือทำขึ้นพร้อมกันอื่น ๆ ทั้งหมด คุณยอมรับว่าไม่มีการรับประกันหรือการรับรองใด ๆ ต่อคุณ หรือโดยเราสำหรับเนื้อหาในหนังสือข้อตกลงนี้
[6] คำจำกัดความ "เนื้อหาวัสดุที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลนำส่ง"หมายถึง (ก) ข้อมูลนำส่งและข้อมูลอื่นใดที่คุณมอบให้เป็นส่วหนึ่งของข้อมูลนำส่งของคุณ (ข) ข้อมูลนำส่ง การโต้ตอบ การเจรจาตกลง หรือการหารือใด ๆ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าหรือเป็นผลต่อเนื่องระหว่างคุณและเราที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลนำส่ง ก่อนจะมีการบอกเลิก และ (ค) การรับรู้ของรู้และการตรวจสอบโดยอิสระของเราสำหรับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลนำส่ง
-
Visa ให้ความช่วยเหลือแก่เจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อจัดการกับการทำธุรกรรมอี-คอมเมิร์ซที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ที่ถูกละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เมื่อได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนและหลักฐานที่น่าเชื่อถือจากเจ้าของ IP โดยตรงที่ระบุว่าร้านค้า ("ร้านค้า") มีส่วนเกี่ยวข้องมรธุรกรรมที่มีการจำหน่ายสินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์บนอินเทอร์เน็ต โดยใช้บัตรชำระเงินภายใต้แบรนด์ของ Visa ครบถ้วนแล้ว Visa จะพยายามระบุและแจ้งให้ธนาคารของร้านค้าผู้รับบัตร ("ธนาคารของร้านค้าผู้รับบัตร") ทราบ ธนาคารของร้านค้าผู้รับบัตรจะเชิญชวนให้ร้านค้าใช้งาน ดำเนินการตรวจสอบสถานะกิจการของร้านค้าที่คาดหมาย และจะทำสัญญากับร้านค้าในขั้นตอนสุดท้าย เพื่อให้ธุรกิจของร้านค้าได้เข้ามาเป็นร้านค้าที่รับบัตรชำระเงินของ Visa เราจะร้องขอให้ธนาคารของร้านค้าผู้รับบัตรสืบสวนข้อกล่าวหาการละเมิด และดำเนินการใด ๆ ที่เหมาะสม ซึ่งอาจจะรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงแต่ การสั่งให้ร้านค้าหยุดจำหน่ายสินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์ตามที่เจ้าของ IP ได้ระบุไว้ หรือยกเลิกบัญชีร้านค้า
-
ก่อนที่จะรายงานข้อร้องเรียน IP ถึง Visa เจ้าของ IP จะต้องใช้ความพยายามเพื่อบังคับใช้สิทธิ์ที่มีต่อร้านค้าก่อน กรุณาแนบจดหมายการยุติและระงับทั้งหมด หรือเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้อื่น ๆ ที่เจ้าของ IP ส่งถึงร้านค้าเพื่อแจ้งให้ทราบถึงกิจกรรมการละเมิด และบ่งชี้หลักฐานที่เจ้าของ IPพยายามบังคับใช้สิทธิ์ใน IP ด้วยเจตนาบริสุทธิ์
-
กรุณามอบหลักฐานที่สนับสนุนข้อกล่าวหาว่าสามารถซื้อสินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์ได้ด้วยการใข้บัตรชำระเงินของ Visa หลักฐานที่ยอมรับได้ จะรวมถึงภาพหน้าจอที่มีตราสัญลักษณ์ของ Visa ที่ถูกใช้บนเว็บไซต์ของร้านค้าตอนชำระเงิน เราสนับสนุนเป็นอย่างยิ่งให้มีการทดสอบในการใช้บัตร Visa ซื้อสินค้าจนเสร็จเรียบร้อย แต่ก็มิได้เป็นการบังคับ หลักฐานของการทดสอบการซื้อจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการช่วยเร่งการประมวลผลเพื่อดำเนินการในการนำส่งหลักฐานของเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา หลักฐานการทดสอบการซื้อที่เชื่อถือได้จะรวมถึงเลขที่บัตร Visa จำนวน 16 หลัก วันที่ทำธุรกรรม และจำนวนเงินในการทำธุรกรรม เพื่อให้เกิดความสอดคล้องในการปฏิบัติตามกฎระเบียบให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูลการบัตรชำระเงินผ่านบัตรเครดิต (PCI DSS) ผู้ถือครองบัตรมีสิทธิ์จะได้รับคำแนะนำไม่ให้ส่งข้อมูลบัตรผ่านทางอินเทอร์เน็ต Visa จะติดต่อเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาทางโทรศัพท์เพื่อสอบถามเลขที่บัตร หากข้อมูลของเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาระบุว่าการทดลองการทำธุรกรรมทางการซื้อนั้นประสบผลสำเร็จ
-
ก. เจ้าของ IP / ชื่อบริษัท
ข. ข้อมูลติดต่อของเจ้าของ IP (ชื่อ ตำแหน่ง ที่อยู่ธุรกิจ อีเมล และหมายเลขโทรศัพท์)
-
หลักฐานที่แสดงว่าเจ้าของ IP เป็นผู้ถือครองลิขสิทธิ์หรือเครื่องหมายการค้าที่กล่าวหาว่าถูกละเมิดโดยสินค้าบนเว็บไซต์ของร้านค้า และผู้เป็นเจ้าของสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาดังกล่าวจะห้ามร้านค้าจำหน่ายสินค้าดังกล่าวในประเทศที่ร้านค้าตั้งอยู่ หรือในประเทศที่ร้านค้าได้จำหน่ายหรือได้เสนอว่าจะจำหน่ายสินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์ที่ถูกกล่าวหา หลักฐานที่เป็นที่ยอมรับของเจ้าของลิทธิทรัพย์สินทางปัญญา อาจจะรวมถึงหมายเลขทะเบียนหรือสำเนาใบรับรองการจดทะเบียนที่ออกให้โดยหน่วยงานรัฐบาล
-
การลงชื่อรับรองของเจ้าของ IP (หรือหากเจ้าของ IP เป็นบริษัท จะต้องเป็นการลงชื่อรับรองโดยเจ้าหน้าที่ของเจ้าของ IP ที่ได้รับอนุญาต) ภายใต้บทลงโทษของความผิดฐานให้การเท็จ ภายใต้กฎหมายของเขตอำนาจศาล โดยที่มีการลงนามรับรองไว้ Visa จะไม่รับข้อมูลนำส่งที่ไม่มีการลงนามรับรองความถูกต้องโดยเจ้าของ IP Visa จะยอมรับข้อมูลนำส่งที่มาจากเจ้าของ IP หรือทนายความที่ได้รับใบอนุญาตเพื่อกระทำการในนามเจ้าของ IP โดยตรงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม Visa ขอสงวนสิทธิในการร้องขอหนังสือมอบอำนาจจากทนายความที่อ้างว่ากระทำการในนามของเจ้าของ IP
-
หากคุณเป็นเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา ที่ไม่ประสบความสำเร็จในการพยายามบังคับใช้กฎหมายต่อร้านค้าก่อนหน้านี้ และมีความเชื่อด้วยเจตนาที่ดีว่าเว็บไซต์นั้นยอมรับการชำระเงินของ Visa รูปแบบของการชำระเงินสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ถูกละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาหนึ่งของคุณ คุณสามารถส่งคำร้องเรียนได้ไม่เกินจำนวนห้า (5) ครั้ง (หนึ่งเว็บไซต์ร้านค้าต่อหนึ่งคำร้อง) ต่อเดือน กรุณากรอก ข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดที่นี่ โปรด ทราบว่า Visa ไม่สามารถดำเนินการตามคำร้องเรียนของคุณได้ จนกว่าเราจะได้รับข้อมูลและเอกสารที่จำเป็น ทั้งหมด
-
เมื่อได้รับข้อมูลที่กำหนดข้างต้น Visa จะเริ่มดำเนินการระบุถึงธนาคารผู้รับบัตรของร้านค้า แล้วส่งต่อข้อมูลนำส่งของเจ้าของ IP ไปให้ธนาคารของร้านค้าผู้รับบัตรที่เหมาะสม และแนะนำให้ธนาคารของร้านค้าผู้รับบัตรเริ่มสืบสวนร้านค้าของธนาคาร หากร้านค้าไม่ยอมยุติการขายสินค้าที่เป็นประเด็น หรือหากร้านค้าไม่ได้มอบหลักฐานที่สนับสนุนประเด็นแห่งความแท้จริงเกี่ยวกับความชอบธรรมทางกฎหมายของการจำหน่ายสินค้าที่เป็นประเด็นของร้านค้า เราก็คาดหวังให้ธนาคารของร้านค้าผู้รับบัตรบอกเลิกการทำรายการผ่านการชำระเงินด้วย Visa สำหรับร้านค้านั้น ๆ
-
หากร้านค้าหรือธนาคารของร้านค้าผู้รับบัตรมีหลักฐานสนับสนุนประเด็นแห่งความแท้จริงเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมายของการจำหน่ายสินค้าที่เป็นประเด็นของร้านค้า จะต้องส่งหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษรให้แก่เจ้าของ IP หาก Visa พิจารณาแล้วว่ามีข้อขัดแย้งเรื่องความแท้จริงระหว่างเจ้าของ IP และร้านค้า เกี่ยวกับความชอบธรรมทางกฎหมายของการจำหน่ายสินค้าที่เป็นประเด็นของร้านค้า Visa จะติดต่อให้เจ้าของ IP ส่งเรื่องไปยังธนาคารของร้านค้าผู้รับบัตรและ/หรือร้านค้าโดยตรง เจ้าของ IP อาจจะต้องแก้ต่าง ชดใช้ และปกป้อง Visa จากการฟ้องร้องใด ๆ โดยร้านค้าหรือฝ่ายที่ได้รับผลกระทบอื่น ๆ สำหรับส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนและการดำเนินการแก้ไขเยียวยาสืบเนื่องใด ๆ ที่เกิดขึ้น รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงแต่ การจ่ายค่าธรรมเนียมทนายความใด ๆ ให้แก่ Visa และธนาคารของร้านค้าผู้รับบัตร ค่าใช้จ่ายและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากข้อขัดแย้ง ทั้งนี้จะเป็นไปตามดุลยพินิจของ Visa แต่เพียงผู้เดียว
การรักษาไว้ซึ่งความไว้วางใจในการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ในกรณีของการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในทางมิชอบ ถือเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของ Visa เจ้าของลิขสิทธื์ทรัพย์สินทางปัญญา การใช้กฎหมายบังคับ และนิติบุคคลอื่น ๆ ที่ดำเนินงานในพื้นที่อี-คอมเมิร์ซ Visa เข้มงวดอย่างมากต่อการละเมิดลิขสิทธื์ทรัพย์สินทางปัญญา และจะร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อช่วยป้องกันการทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมายที่เกิดขึ้นภายในเครือข่ายของ Visa